22 ตุลาคม 2567
การทายาสีฟันบนแผลไฟไหม้หรือแผลพุพองจากเตารีดเพื่อหวังลดอาการแสบร้อนและเร่งการหายของแผล เป็นความเชื่อที่ผิดและอาจก่อให้เกิดอันตรายมากยิ่งขึ้น ทางการแพทย์ยืนยันว่ายาสีฟันไม่ได้มีคุณสมบัติในการรักษาแผล และอาจทำให้แผลแย่ลง
ยาสีฟันมีไว้สำหรับฟันเท่านั้น การใช้ยาสีฟันทาแผลพุพองเป็นความเชื่อที่แพร่หลายมานานไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่ยังพบได้ทั่วโลก คนมักเข้าใจผิดว่าส่วนประกอบในยาสีฟัน เช่น ฟลูออไรด์และแคลเซียมคาร์บอเนต สามารถช่วยลดการอักเสบหรือทำให้แผลหายเร็วขึ้น แต่แท้จริงแล้ว สารเหล่านี้อาจทำให้เกิดการระคายเคือง และเนื่องจากยาสีฟันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับบาดแผล ส่วนประกอบบางอย่างอาจทำให้แผลแห้งเกินไป ส่งผลให้แผลอักเสบหรือติดเชื้อมากขึ้น
คำเตือนจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังระบุว่ายาสีฟันไม่เหมาะสมสำหรับการรักษาบาดแผลใดๆ การใช้ยาสีฟันในทางที่ผิดอาจทำให้แผลลุกลาม หรือทำให้แผลหายช้า แพทย์แนะนำให้ใช้ยาทาแผลที่มีส่วนประกอบของสารต้านการอักเสบหรือยาฆ่าเชื้อที่ผ่านการรับรองแทน
รศ.นพ.อภิชัย อังสพัทธ์ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวเสริมว่า ยาสีฟันไม่ได้มีสารที่ช่วยในการรักษาแผล และยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในแผลไฟไหม้ ดังนั้นวิธีการปฐมพยาบาลแผลไฟไหม้ที่ถูกต้องคือทำความสะอาด ประคบเย็น และรีบพบแพทย์
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับแผลไฟไหม้
1. ออกห่างจากแหล่งที่ทำให้เกิดไฟไหม้
2. ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเย็นนาน 10-20 นาที (ห้ามใช้น้ำเย็นจัดหรือน้ำแข็ง) เพื่อลดความร้อนและบรรเทาอาการเจ็บปวด หลีกเลี่ยงการใช้ครีม ยาสีฟัน หรือน้ำมันในการทาแผล
3. ปกป้องแผลใช้ผ้ากอซหรือผ้าสะอาดที่ไม่ติดแผลคลุมเบาๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ห้ามใช้ผ้าหนาๆ หรือผ้าขนสัตว์ เพราะอาจทำให้เศษผ้าติดที่แผลและทำให้บาดแผลแย่ลง
4. ถอดเครื่องประดับหรือเสื้อผ้าที่รัดแน่น หากแผลไหม้เกิดที่นิ้ว แขน หรือขา ควรถอดเครื่องประดับหรือเสื้อผ้าที่รัดแน่นออกโดยเร็ว เพราะเนื้อเยื่อบริเวณนั้นอาจบวมขึ้นได้
5. ห้ามเจาะแผลพุพอง หากแผลเกิดการพุพอง ห้ามเจาะแผล เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
6. ให้ดื่มน้ำมากๆ การสูญเสียน้ำจากผิวหนังที่ถูกไฟไหม้จะสูงกว่าปกติ ควรให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
7. พบแพทย์ทันที หากแผลไหม้มีขนาดใหญ่ รุนแรง หรือเกิดที่บริเวณใบหน้า มือ เท้า หรืออวัยวะสำคัญ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
“ว่านหางจระเข้” เพื่อนแท้ช่วยบรรเทาแผลพุพอง
ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดูแลผิวหนังและรักษาบาดแผลต่างๆ รวมถึงแผลพุพองด้วย ว่านหางจระเข้มีสารอะโลอิน (Aloin) ซึ่งมีสรรพคุณลดการอักเสบ ช่วยให้ผิวบริเวณแผลเรียบเนียนขึ้น และส่งเสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเย็นที่ช่วยบรรเทาอาการแสบและร้อนบริเวณแผลได้ดี
การใช้ว่านหางจระเข้ในการบรรเทาแผลพุพอง เริ่มจากการทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน จากนั้นนำว่านหางจระเข้ที่ปอกเปลือกแล้ว มาคั้นเอาเนื้อสดๆ ทาบางๆ บริเวณแผล วันละ 2-3 ครั้ง แล้วปิดแผลด้วยผ้ากอซสะอาด
ว่านหางจระเข้เป็นสารธรรมชาติที่มีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาแผนปัจจุบัน แต่ก่อนใช้ควรทดสอบอาการแพ้ โดยการทาบริเวณผิวหนังที่ไม่ใช่แผลก่อน สำหรับเจลว่านหางจระเข้สำเร็จรูป ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและมีเครื่องหมาย อย. หากแผลพุพองมีความรุนแรงหรือมีการติดเชื้อ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม
หมายเหตุ : ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ควรใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรคต่างๆ
แหล่งที่มา : https://www.thaipbs.or.th/news/content/345549