Home » เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในที่อับอากาศ ใครคือคนที่ต้องลงมือก่อน

เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในที่อับอากาศ ใครคือคนที่ต้องลงมือก่อน

by pam
7 views
ผู้รับผิดชอบเหตุฉุกเฉินในที่อับอากาศ

เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในที่อับอากาศ เช่น ผู้ปฏิบัติงานหมดสติเนื่องจากขาดออกซิเจน หรือมีการรั่วไหลของก๊าซพิษ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมักเผชิญกับคำถามสำคัญในวินาทีนั้นว่า “ใครควรลงมือก่อน?” การตอบสนองอย่างถูกลำดับ ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุ แต่ยังลดความเสี่ยงที่จะมีผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นจากความเข้าใจผิดหรือการเข้าไปช่วยโดยไม่มีการเตรียมพร้อม

วันนี้ผมจะพาผู้อ่านเจาะลึกถึงบทบาทของบุคลากร 4 กลุ่มหลักที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในพื้นที่อับอากาศ ได้แก่ ผู้อนุญาต ผู้ควบคุมงาน ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ช่วยเหลือฉุกเฉิน

บทบาทของผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุฉุกเฉิน

ตำแหน่งหน้าที่ บทบาทหลัก การลงมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องอบรมหรือไม่
ผู้อนุญาต (Entry Supervisor) อนุญาตและตรวจสอบแผนงาน ประสานหยุดงาน แจ้งเหตุ และติดต่อหน่วยกู้ภัย
ผู้ควบคุมงาน(Attendant/Watcher) เฝ้าระวังหน้าปากทางเข้า แจ้งเตือน ควบคุมสถานการณ์ แจ้งเหตุทันที
ผู้ปฏิบัติงาน (Entrant) เข้าไปทำงานภายในพื้นที่ พยายามออกมาด้วยตนเอง ถ้าสามารถ
ผู้ช่วยเหลือฉุกเฉิน (Rescuer) เข้าไปช่วยเหลือเมื่อได้รับอนุญาต ปฏิบัติตามแผนกู้ชีพ เฉพาะเมื่อมีอุปกรณ์และความพร้อม

✅ หมายถึง ต้องผ่านการอบรมตามที่กฎหมายกำหนด

ลำดับความสำคัญในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน ที่อับอากาศ

  1. ผู้ควบคุมงาน จะเป็นคนแรกที่ตรวจพบเหตุการณ์ เนื่องจากมีหน้าที่เฝ้าระวังนอกพื้นที่

  2. ผู้อนุญาต จะรับการแจ้งและประเมินสถานการณ์ ร่วมกับตัดสินใจหยุดงาน/เรียกหน่วยช่วยเหลือ

  3. ผู้ช่วยเหลือฉุกเฉิน จะเข้าไปภายใต้แผนกู้ชีพเท่านั้น หากมีความปลอดภัยและพร้อม

  4. ผู้ปฏิบัติงาน ควรได้รับการอบรมให้รู้วิธีเอาตัวรอดเบื้องต้นหากยังไม่หมดสติ

สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง คือ การที่ ผู้ควบคุมงานหรือผู้ไม่ได้รับการอบรม เข้าไปช่วยเหลือโดยไม่มีแผนหรืออุปกรณ์ เพราะมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นผู้ประสบภัยเพิ่ม

การอบรมที่อับอากาศตามกฎหมายปี 2564

การอบรมที่อับอากาศตามกฎหมายปี 2564: ปัจจัยเสริมสร้างความปลอดภัย

ประกาศกฎหมายอบรมที่อับอากาศ พ.ศ. 2564 ได้กำหนดให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กำหนด โดยแบ่งตามบทบาท ดังนี้:

  • ผู้อนุญาต และ ผู้ควบคุมงาน: ต้องผ่านหลักสูตรความรู้และบทบาทความรับผิดชอบในการบริหารจัดการ

  • ผู้ปฏิบัติงาน: ต้องได้รับการฝึกฝนในการใช้อุปกรณ์ การทำงานอย่างปลอดภัย

  • ผู้ช่วยเหลือ: ต้องผ่านการอบรมด้านการกู้ชีพในที่อับอากาศโดยเฉพาะ

ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2564 ได้กำหนดว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานในที่อับอากาศ ต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่ระบุไว้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บุคลากรทุกระดับสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ตามหน้าที่ของตนเอง

บทบาทหน้าที่ ต้องอบรมหลักสูตร ระยะเวลา
ผู้อนุญาต อบรมบทบาทตามประกาศฯ 6 ชั่วโมง
ผู้ควบคุมงาน อบรมบทบาทตามประกาศฯ 6 ชั่วโมง
ผู้ปฏิบัติงาน อบรมความปลอดภัย + เทคนิคเฉพาะ 12 ชั่วโมง
ผู้ช่วยเหลือ อบรมการกู้ชีพในที่อับอากาศ 18 ชั่วโมง + ฝึกภาคสนาม

👉 อ่านสรุปเต็มของประกาศกฎหมายได้ที่นี่: สรุปกฎหมายอบรมที่อับอากาศ 2564

สรุป

เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในที่อับอากาศ การจัดลำดับหน้าที่และบทบาทในการตอบสนองจึงต้องอาศัยแผนงานและความรู้ที่มาจากการอบรมตามกฎหมายอย่างถูกต้อง บุคคลที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องทุกตำแหน่ง จำเป็นต้องเข้าใจบทบาทของตนเองอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการสูญเสียเพิ่มเติม และเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในระบบงาน


เอกสารอ้างอิง

  1. กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2564). ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการฝึกอบรมการทำงานในที่อับอากาศ พ.ศ. 2564

  2. สมาคมส่งเสริมความปลอดภัยฯ. (2565). คู่มือความปลอดภัยในการทำงานในที่อับอากาศ

  3. Occupational Safety and Health Administration (OSHA). (2021). Confined Spaces – Emergency Response and Rescue Requirements.

  4. สำนักงานกองทุนเงินทดแทน. (2565). การวิเคราะห์อุบัติเหตุที่อับอากาศและแนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง